
เกมเดิม
ผมลืมตาตื่น แสงอาทิตย์ส่องกระทบเข้ามาในดวงตา กลิ่นอายของสงครามยังตกค้างอยู่ทั่วทุกบริเวณ สถานที่ที่ผมหนีเข้ามาหลบอยู่นี้เป็นบ้านไม้เก่าแก่ที่คงอยู่มานานเกินร้อยปีเข้าไปแล้ว ตอนแรกที่ผมเห็นมันหลังจากวิ่งหนีออกมาจากจุดที่มีการปะทะเกิดขึ้นนั้นเป็นตอนกลางคืนที่ทุกอย่างมืดสนิท เห็นเพียงตัวบ้านโดดเดี่ยวขนาดกลางที่ตั้งตระหง่านอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาวกับสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัว ผมไม่อาจมองเห็นตัวบ้านได้ชัดเจนนักในตอนนั้น รู้เพียงแต่ว่าเป็นบ้านที่ไม่มีคนอยู่มานานและคงจะร้างแบบนี้ตั้งแต่ก่อนเกิดสงครามแล้ว ผมจึงเข้ามาหลบในตัวบ้านอย่างไม่รีรอและผล็อยหลับไปโดยลืมตรวจสอบบริเวณโดยรอบไปเสียสนิท เนื่องด้วยขณะนี้คือเวลาแห่งวิกฤต โมงยามแห่งสงครามที่ดูเหมือนจะยาวนานไม่จบสิ้น ผู้คนระส่ำระสายและหวาดกลัว ระบบโทรคมนาคมและสาธารณูปโภคของเราถูกทำลายอย่างถาวร ยิ่งแสดงให้เห็นว่าเราอ่อนแอมากแค่ไหน เราใช้ชีวิตอย่างสุขสบายและหลงลืมไปว่าความจริงแล้วเราหยิบยืมอะไรมาจากผู้อื่นมากเพียงใด
สุขสบายจนลืมไปว่าเราไม่เคยอยู่ได้ด้วยตัวเองเอาเสียเลย
ผมเหยียดกายขึ้นมาจากที่นอน เป็นเรื่องโชคดีอย่างน่าประหลาดที่ผมมาเจอบ้านหลังนี้เข้าในทุ่งหญ้ารกร้างว่างเปล่าที่ผมหนีเข้ามาคนตามลำพังนี้ ไม่รู้ว่าคนอื่นจะเป็นอย่างไรบ้างเพราะเราหนีกันไปคนละทิศละทางด้วยความคิดของผมเอง เสียงภายนอกเงียบสงบแล้ว ผมมองออกไปทางหน้าต่างที่อยู่ข้างเตียง จากตรงนี้ผมมองไม่เห็นจุดที่เกิดการปะทะขึ้นเมื่อคืนวาน เห็นเพียงทุ่งหญ้ารกสูงกว้างไกลที่มีป่าทอดตัวคั่นอยู่อีกด้านหนึ่ง แทบไม่น่าเชื่อว่าผมวิ่งหนีมาไกลได้ขนาดนั้น ขณะนั้นดวงอาทิตย์ทอแสงเจิดจ้าอยู่แทบจะเหนือศีรษะ คงใกล้เที่ยงแล้ว ผมนึก พลางตระหนักได้ถึงบรรยากาศบางอย่างข้างนอกนั่น บรรยากาศของความสงบนิ่ง การรักษาและเยียวยา สภาวะของสงครามอันวุ่นวายและน่ากลัวอย่างเมื่อวานได้สิ้นสุดลงไปแล้ว มันจบแล้ว
ผมจ้องมองไปยังท้องทุ่งกว้างและนิ่งไปชั่วขณะ สงครามโลกครั้งที่สามอันยาวนานได้สิ้นสุดลงแล้ว ระยะเวลาร่วมสองปีที่ไม่มีดินแดนใดได้อยู่อย่างสงบ ทั่วทุกหนระแหงลุกโชนไปด้วยไฟแห่งสงคราม การปะทะกันของสองขั้วมหาอำนาจที่ส่งผลกระทบถึงผู้คนทุกแดนดินในที่สุดก็ถึงกาลอวสาน อันที่จริงผมรู้ตั้งแต่เมื่อคืนนี้แล้ว รู้ตั้งแต่พวกเราตัดสินใจวิ่งหนีออกมานั่นแหละ เมื่อผู้นำฝ่ายเราร่วมกับพันธมิตรตัดสินใจประกาศยอมแพ้และล่าถอยทัพ สงครามก็เป็นเช่นนี้เอง มันไม่อาจสิ้นสุดได้ถ้าผลลัพธ์ยังไม่ชัดเจน
ไม่ใครก็ใครต้องแพ้สักคนหนึ่ง
ต่อให้แพ้โดยดุษณีหรือทำเป็นยอมแพ้ก็ตามที
ผมถอนหายใจ รู้ตัวว่าอยู่ที่นี่ได้คงอีกไม่นานนัก อย่างมากก็คงได้แค่วันพรุ่งนี้ พื้นที่บริเวณนี้เป็นเขตชายแดนที่ฝ่ายตรงข้ามเลือกเป็นจุดประจัญบานของสองกองทัพ อาณาเขตกว้างใหญ่ไพศาลที่เต็มไปด้วยทุ่งหญ้าและป่ารกชัฎที่อพยพผู้คนออกไปหมดแล้ว ผมมองไปรอบตัวขณะคิดถึงเพื่อนทหารที่ร่วมเป็นร่วมตายมาด้วยกันทั้งหมด ถึงจะแยกกันหนีไปคนละทาง แต่ทั้งหมดก็แยกย้ายกันตอนอยู่ในป่า ไม่น่าจะออกห่างกันไปไกลมากนัก เท่าที่ดูบริเวณนี้ก็มีแค่บ้านเก่าหลังนี้เท่านั้นที่ตั้งอยู่พอจะเป็นที่พักได้ ผมตัดสินใจรอคอยเผื่อจะมีใครสักคนบังเอิญผ่านมา
ผมเดินไปทั่วบ้าน มันเป็นบ้านขนาดสองชั้นที่ทำจากคอนกรีตและปิดทับด้วยไม้เนื้อดีทำให้ดูเหมือนตัวบ้านทำจากไม้ทั้งหมด คาดว่าเจ้าของบ้านแต่เดิมน่าจะเป็นคนมีเงินพอสมควรเมื่อดูจากขนาดของบ้านและอุปกรณ์ต่างๆ เจ้าของคนต่อๆ มาก็คงดูแลและบูรณะตัวบ้านเป็นอย่างดีไม่ให้บุบสลาย สิ่งที่เห็นได้จากตัวบ้านจึงมีเพียงแค่ความเก่าแก่น่าเกรงขามที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาตลอดร้อยกว่าปีเท่านั้นเอง
ผมลงมาถึงชั้นล่าง มองรูปภาพเก่าเรียงรายเต็มผนังด้านหนึ่งที่ดูน่ากลัวพิลึกเมื่อบรรยากาศช่างเงียบสงบและมีเพียงแสงอาทิตย์ภายนอกเท่านั้นที่ส่องสว่างให้เห็นสิ่งต่างๆ ได้อย่างเลือนราง ผมสังเกตดูรูปภาพ ครอบครัวล่าสุดที่อยู่ในบ้านหลังนี้น่าจะเป็นคุณแม่ลูกสาม -- หญิงสองชายหนึ่ง -- กับผู้หญิงมีอายุคนหนึ่งที่คงเป็นแม่บ้านของครอบครัวเมื่อดูจากชุดที่ใส่ มีภาพถ่ายของพวกเขาเต็มผนังด้านหนึ่งของห้องโถงด้านล่าง ผมไล่ดูไปเรื่อยๆ สังเกตจากสภาพของรูปและกรอบรูปแล้วครอบครัวสุดท้ายที่อยู่ที่นี่คงจากบ้านหลังนี้ไปมากกว่าสิบปีแล้วแน่ๆ อีกอย่างหนึ่งก็คือ เท่าที่ผมเห็นดูเหมือนว่าทุกรูปที่ติดบนผนังนี้เป็นรูปที่ถ่ายในบ้านแทบทั้งสิ้น
ผมสำรวจบ้านต่อไป ไม่มีอะไรมากนัก ก็คงเป็นบ้านเก่าที่อยู่มานานและถูกตาถูกใจพวกเศรษฐีเข้าเลยขายได้ราคาและส่งต่อกันมาเรื่อยๆ ความเก่าแก่และคลาสสิคทำให้มีเจ้าของเปลี่ยนมือได้ตลอด จนมารายล่าสุดนี้เองที่คงหาคนซื้อต่อไม่ได้เลยปล่อยร้างไว้ เพราะตัวบ้านนั้นเก่าและถึงจะรักษาให้คงทนมาตลอดแต่ก็ไม่มีการปรับเปลี่ยนให้เข้ากับยุคสมัยที่ผ่านมาเป็นร้อยปีขนาดนี้ ประตูเป็นแค่ลูกบิดธรรมดา หน้าต่างก็กลอนปกติเช่นกัน เมื่อสักครู่ผมเห็นมีวิทยุที่คงจะล้ำสมัยในสมัยก่อนไม่น้อยในห้องครัว แต่ถือว่าเก่าและเทอะทะเต็มทีสำหรับเทคโนโลยีสมัยนี้ที่ยัดทุกอย่างลงไปได้ในกระจกแผ่นสี่เหลี่ยมใสขนาดใหญ่กว่าฝ่ามือเพียงเล็กน้อยและเชื่อมต่อทุกอย่างได้ด้วยอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงที่ครอบคลุมทั่วโลก ไม่มีจำเป็นต้องมีเสาส่งสัญญาณ หรือแม้แต่ดาวเทียม ทั้งโทรศัพท์ สื่อต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นดูหนัง ฟังเพลง หรืออ่านหนังสือ เราก้าวกระโดดข้ามผ่านการใช้ทรัพยากรสิ้นเปลืองมาเป็นการรวมทุกอย่างไว้ในอุปกรณ์เพียงหนึ่งเดียว
ผมหยุดเดินขณะเดินผ่านผนังรูปอีกครั้ง จ้องมองรูปใบหนึ่งที่เพิ่งสังเกตได้ว่าสถานที่ในรูปนั้นไม่ใช่ห้องใดห้องหนึ่งในบ้านหลังนี้เหมือนรูปอื่นๆ ผมเพ่งดูรูป เป็นสมาชิกทั้งหมดในบ้าน -- เด็กสองคนนอนหลับอยู่บนโซฟา ส่วนตัวแม่กำลังอ่านข่าวรายวันผ่านทางอุปกรณ์ที่ผมว่าไปเมื่อสักครู่ -- คนถ่ายรูปคงเป็นหญิงแม่บ้าน และตรงมุมห้องผมเหลือบเห็นบางอย่าที่ไม่ได้เห็นมานานแล้ว โทรทัศน์เครื่องเก่าคร่ำคร่าขนาดใหญ่ น่าจะอยู่มานานกว่าวิทยุในห้องครัวมากทีเดียว ผมพยายามสังเกตลักษณะของห้องที่ไม่มีหน้าต่างสักบานและคนในรูป ก่อนจะตระหนักได้ด้วยสัญชาตญาณว่ารูปนี้ถูกถ่ายที่ห้องใต้ดินหรือหลุมหลบภัยนั่นเอง
นี่คือส่วนที่น่ายกย่องของคนสมัยก่อน พวกเขารู้จักสถานที่ที่พวกเขาจะซ่อนตัวได้เมื่อยามมีวิกฤต สถานที่ที่พวกเขาจะหลบซ่อนได้ยาวนานพอ ประทังชีวิตและซ่อนตัวไม่ให้ใครเห็นจนกว่าทุกอย่างจะสงบอีกครั้ง ส่วนคนสมัยนี้น่ะหรือ พวกเขาอยู่อย่างสบายมานานเกินไป นานจนลืมแม้กระทั่งความจริงที่ว่าไม่มีอะไรสงบนิ่งได้ตลอดไป
ผมไปที่ห้องครัว อยู่ๆ สิ่งที่ผ่านสายตาผมก็ปรากฎขึ้นในหัวและทำให้ผมรู้ได้ทันทีว่าทางเข้าห้องใต้ดินลับแห่งนั้นอยู่ที่ไหน ผมเลิกพรมที่ปูพื้นอยู่อย่างผิดธรรมชาติที่ผมสังเกตเห็นได้ตั้งแต่ตอนแรกแล้วขึ้น และนั่น -- ภายใต้พรมนั้นคือประตูลับเป็นบานไม้ที่ซ่อนอยู่อย่างแนบเนียนกับผิวของพื้น ผมเปิดประตูขึ้นแล้วก้าวลงบันไดที่ทอดยาวลงไปโดยไม่รีรอ
กลิ่นอับของอากาศที่เก่าเก็บแสดงถึงสภาพของห้องที่คงไม่มีใครเข้ามาสักระยะหนึ่งแล้ว ห้องมืดสนิท มีเพียงแสงอาทิตย์จากห้องครัวที่ส่องเข้ามาอย่างบางเบา ผมรู้มาเหมือนกันว่าบ้านที่มีห้องลับซ่อนอยู่แบบนี้มักจะมีระบบปั่นไฟของตัวเอง ผมรอจนสายตาเคยชินกับความมืดจนเริ่มเห็นห้องในความมืดอย่างเลือนราง คลำทางไปเรื่อยๆ จนสุดบันไดผมก็เห็นปุ่มสีแดงปุ่มใหญ่ด้านซ้ายมือ ผมกดมันทันที
มีเสียงครืนครางของเครื่องกลบางอย่างทำงาน ไม่กี่วินาทีไฟในห้องก็สว่างจ้าจนผมถึงกับต้องหลับตาที่เคยชินกับความมืดไปชั่วครู่ ผมมองไปรอบห้อง ในห้องมีของทุกอย่างที่หลุมหลบภัยหลุมหนึ่งควรจะมี ทั้งอาหารกระป๋อง ของใช้ประทังชีวิตต่างๆ ขนาดของห้องกว้างเท่ากับห้องโถงใหญ่ด้านบน บ่งบอกถึงระดับความมีอันจะกินของผู้สร้างบ้านหลังนี้ในยุคนั้น มีโซฟาขนาดใหญ่ตรงกลาง มีมุมอ่านหนังสือ และมีห้องน้ำอยู่อีกทางหนึ่ง แต่นี่ไม่ใช่สิ่งที่ผมสนใจ
ที่ผมสนใจคือโทรทัศน์เครื่องเก่านั่นมากกว่า
อย่างที่ผมบอกไป ด้วยเทคโนโลยีสมัยนี้ทำให้โทรทัศน์เครื่องเทอะทะนั้นไม่จำเป็นอีกต่อไป ในยุคนี้ทุกคนมีโทรทัศน์ส่วนตัว หรือจะเลือกให้ฉายภาพออกมาเพื่อดูกันในหมู่คณะก็ทำได้ด้วยอุปกรณ์กระจกใสที่ว่านั่น ผมสังเกตความเก่าของมันแล้วคงอยู่มานานมาก นานกว่าครอบครัวล่าสุดที่มาอยู่นี่เสียอีก ใต้โทรทัศน์นั้นเองก็มีเครื่องเล่นวีดีโอ วีซีดีและดีวีดีตามลำดับ แน่นอนว่าของเหล่านั้นก็ไม่จำเป็นอีกแล้วเช่นกัน สมัยนี้ทุกคนสามารถดาวน์โหลดทุกอย่างมาดูได้ด้วยอินเทอร์เน็ตไร้สาย ไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์บันทึกข้อมูลใดๆ เพราะทุกคนมีพื้นที่เก็บข้อมูลส่วนตัวอยู่ทั่วทุกมุมโลก
ผมตรวจสอบสภาพของเครื่อง ตัดสินใจลองเปิดดูแล้วก็พบว่าเครื่องติดทั้งโทรทัศน์และเครื่องเล่น แต่แน่นอนว่าไม่มีสัญญาณโทรทัศน์หรอก ผมเห็นแผ่นซีดีวางไว้แผ่นหนึ่งบนเครื่องนั้นและหยิบขึ้นมาดู ก่อนจะใส่มันเข้าไปแบบไม่คิดอะไร ผมคิดอะไรกันหรือ ดูหนังฆ่าเวลารอสงครามสงบกว่านี้หรือยังไงกัน? ภาพบนจอฉายขึ้นมา ผมไม่เห็นรีโมท ไม่มีเสียงด้วยซ้ำ แต่ผมไม่สนใจหรอกแค่เครื่องเปิดติดได้ก็นับว่าบุญเต็มทีแล้ว ภาพที่ฉายอยู่เป็นภาพสีขาวดำไม่คมชัดละเอียดเหมือนกับภาพสมัยนี้ ผมนั่งดูไปเรื่อยๆ โดยไม่รู้ตัว
ไม่ว่าเจ้าของแผ่นซีดีที่วางอยู่จะเป็นใครก็ตาม เขาจะต้องเป็นใครสักคนที่อยู่ในวงการสงครามและเกมการเมืองของเรื่องทั้งหมดนี้ และต้องเป็นคนที่มีอำนาจพอจะเก็บของแบบนี้ไว้ได้ด้วย เพราะข้อมูลที่บันทึกในภาพนั้นเป็นข้อมูลลับเฉพาะที่ห้ามเผยแพร่ออกสู่สาธารณะมาตั้งแต่ห้าสิบปีที่แล้ว บางข้อมูลเป็นข้อมูลลับที่ห้ามเผยแพร่มาตั้งแต่ในอดีตแล้วด้วยซ้ำ มันเป็นภาพบันทึกเนื้อหาตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่หนึ่งจนถึงสามสิบปีก่อนจะเกิดสงครามโลกครั้งนี้ขึ้น ข้อมูลในภาพแสดงถึงความจริงอันโหดร้ายที่มนุษย์สามารถกระทำต่อกันได้อย่างมากที่สุดเพื่อจุดประสงค์ของตนเอง เหตุการณ์ต่างๆ นั้นดูทีเดียวก็รู้ว่าเกิดขึ้นซ้ำซ้อนกันในรูปแบบเดิมเพียงแต่เปลี่ยนสถานการณ์ เห็นได้ชัดว่าผู้บันทึกข้อมูลจงใจใช้แผ่นซีดีในการบันทึกข้อมูลเพราะทำให้ยากต่อการเข้าถึงในสมัยนี้ ใครจะไปสนใจแผ่นซีดีเก่าๆ ในเมื่อมีอะไรให้ดูอีกตั้งมากมายในโลกไร้สายที่อยู่รอบตัว จริงไหม?
ผมนิ่งไปนานทีเดียวหลังจากดูจบ ความยาวของวิดีโอประมาณครึ่งชั่วโมงนี้เปิดเผยสิ่งต่างๆ มากมายเหลือเกิน จะด้วยจุดประสงค์ใดก็ตาม ข้อมูลที่บันทึกอยู่ในนั้นทำให้ผมเห็นความจริงของสงครามครั้งนี้และครั้งอื่นๆ มากขึ้นอย่างชัดเจน ความจริงที่ว่ามนุษย์เราไม่เคยเปลี่ยนไป ต่อให้เทคโนโลยีก้าวหน้าไปมากแค่ไหน ต่อให้โลกก้าวกระโดดไปไกลถึงขนาดที่เราติดต่อกับต่างดาวได้แล้วก็ตาม เราก็ต่างเป็นผู้โง่เขลาที่จมปลักอยู่ในวังวนที่ตนสร้างขึ้นมาเองกันทั้งนั้น เราไม่เคยหลุดพ้นจากวัฎจักรของสงคราม เราไม่เคยหยุดตัวเองให้ตั้งสติได้เลย เรามัวแต่ทำร้ายกันและกัน เราต่างตกเป็นเบี้ยของเวรกรรมที่หมุนวนเป็นกงเกวียนไปอย่างไม่รู้จบนี้ตลอดมา ถึงจะผ่านมาแล้วร้อยปี ส่ิงต่างๆ เปลี่ยนไปมากมาย แต่เรื่องราวที่เกิดขึ้นไม่ได้เปลี่ยนไปเลยแม้แต่น้อย เวลาเปลี่ยน คนเปลี่ยน รูปแบบเปลี่ยน แต่โดยรวมแล้วก็เหตุการณ์เดียวกันทั้งนั้น
เราต่างก็อยู่ในเกมเดียวกันที่มีผู้เล่นต่างกันไปเท่านั้นเอง.