top of page

ถึงแก่น เรื่องเล่าจากโรงพยาบาล

เรื่องย่อ

 

          วรรณกรรมอาเซียนจากประเทศฟิลิปปินส์ เป็นเรื่องราวการใช้ชีวิตอยู่ในโรงพยาบาลเป็นระยะเวลาสามเดือน ของอาจารย์มหาวิทยาลัยหนุ่มคนหนึ่ง ที่บังเอิญประสบอุบัติเหตุตกจากรถสองแถวทำให้ต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล และกลายเป็นคนพิการไปกว่าสามเดือนด้วยกัน แก่นของเรื่องคือความสำคัญของร่างกาย การเห็นคุณค่าของร่างกายเมื่อหายฟื้นขึ้นมาจากอาการเจ็บป่วยและสามารถเดินเหินได้เป็นปกติอีกครั้งหนึ่ง ระหว่างเรื่องก็มีการสอดแทรกแง่คิดและเปิดเผยสภาพสังคมของชาวฟิลิปปินส์ พร้อมทั้งการเสียดสีการเมืองและศาสนาอยู่เป็นระยะๆ

 

ประเด็นที่ได้จากหนังสือ

         

          ผู้เขียนวิพากษ์การทำงานของระบบการรักษาในโรงพยาบาล ที่ต้องแสดงตัวตนชัดเจนว่าเป็นผู้มีเงินจ่ายค่ารักษาถึงจะดำเนินการรักษาให้ เพราะในตอนแรกที่ตกรถ สภาพของตัวเอกดูไม่สะอาดสะอ้านและเหมือนจะไม่มีเงินรักษา จึงถูกทิ้งไว้เป็นเวลานาน จนกระทั่งต้องออกตัวว่าตนเองเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยและมีเงินจ่ายค่ารักษาและยังมีประกันอีกด้วย ทางหมอและพยาบาลจึงเข้ามาดูแลรักษากันเป็นอย่างดี และมีการเปิดเผยว่าอาชีพหมอในฟิลิปปินส์นั้นไม่ได้มีเงินเดือนสูงเท่าไหร่นัก ทำให้บางครั้งเมื่อเป็นโรงพยาบาลของรัฐบาล คุณภาพของหมออาจจะสู้เอกชนไม่ได้ ผู้เขียนยังอธิบายเหตุผลที่ตัวเอกได้รับการรักษาจากหมอชั้นดีแบบจิกกัดระบบอุปถัมภ์ไว้ด้วยอีกว่า

 

           “...ผมได้รับการแนะนำตัวจากเพื่อนของเพื่อน จึงได้รับการดูแลดี นี่แหละประเด็น ว่าทำไมเส้นสายจึงเป็นสิ่งจำเป็นอันดับแรกของการวางตัวของของคน แค่เพราะคุณไม่รู้จักใคร คุณก็จะถูกปล่อยให้ตายอยู่ข้างถนน...”

 

          อีกประเด็นคือเรื่องของความสำคัญของเยาวชน สิ่งหนึ่งที่ตลอดทั้งเรื่องนี้ทำได้ดีเลยคือชี้ให้เห็นภาพสภาพสังคมครอบครัวของคนฟิลิปปินส์ว่ามีความใกล้ชิดกันสูง ค่อนข้างคล้ายๆ คนไทย เพราะระหว่างนอนพักอยู่ตัวเอกมีญาติจากหลายฝ่ายมาคอยเฝ้าไข้และเยี่ยมอยู่เป็นระยะ หลังจากออกจากโรงพยาบาลแล้วก็มีหลานๆ มาคอยช่วยดูแลที่บ้านระหว่างที่ยังเดินไม่ค่อยสะดวกนัก และผู้เขียนก็แอบสอดแทรกการสอนสั่งเยาวชนเข้าไปด้วยในตัวหลายๆ ประโยค

 

           “...มันเป็นวัฏจักร พ่อแม่รู้ว่าลูกต้องเรียนหนัก แต่ลูกกลับไม่เห็นว่าต้องจริงจังเรื่องอนาคต พวกเด็กเอาแต่จีบและออกเดตกัน ในระหว่างนั้นพ่อแม่ก็ไม่อาจเผด็จการบังคับความฝันหรือกำกับชีวิตลูกๆ ได้...”

 

           “...ทำไมถึงต้องพยายามขยายเผ่าพันธุ์มวลมนุษยชาติ ถ้าแม้แต่ร่างกายของคุณเองก็ยังยากที่จะรักษาไว้ให้ดีได้ในช่วงเวลาเหล่านี้...” (พูดถึงเด็กที่ท้องก่อนวัยอันควร)

 

           แต่ประเด็นหลักจริงๆ ของเรื่องก็คือคุณค่าของการได้มีชีวิตอยู่อย่างปกติสุข และความสำคัญของคนรอบข้างๆ ในยามที่ตัวเองเจ็บป่วย แบบที่คำโปรยเรื่องนี้บอกเอาไว้ว่า “สิ่งสำคัญที่สุดในยามเจ็บป่วยคืออย่าหมดหวัง” ตัวละครหลักแสดงความรู้สึกด้อยค่าในตัวเองตลอดเวลาที่อยู่ในสภาพเดินไม่ได้ รู้สึกทุกอย่างน่ารำคาญและเหมือนตัวเป็นที่เกะกะ แต่ระหว่างนั้นก็ทำให้เขาได้วิเคราะห์และมองอะไรๆ ด้วยสายตาที่ชัดขึ้น เขามองเห็นครอบครัว มองเห็นเพื่อน มองเห็นผู้คนที่อยู่ในแวดวงชีวิตของเขาในแบบที่เขาไม่เคยมองมาก่อน และก็ระลึกได้ว่าตนเองโชคดีเพียงใดที่มีคนเหล่านี้คอยดูและอยู่ข้างๆ พอหายดีแล้วความรู้สึกสดใหม่ของการได้กลับมามีชีวิตอยู่อย่างเต็มที่อีกครั้งหนึ่งจึงกลายเป็นเรื่องมหัศจรรย์ของเขา ความรู้สึกยอดเยี่ยมที่ได้ก้าวเท้าเดินไปข้างหน้าด้วยขาของตัวเองอย่างมั่นคง เป็นครั้งแรกที่เขานึกขอบคุณในชีวิตที่พระเจ้าได้มอบให้มานี้.

bottom of page