top of page

เดียว (เมื่อชีวิตเหลือเพียงลมหายใจ)

เรื่องย่อ

 

          เรื่องราวของครอบครัวสองครอบครัวที่บังเอิญมาเกี่ยวข้องกัน ครอบครัวหนึ่งคือฝ่ายครอบครัวของเลิศฤทธิ์ ที่มีภรรยาชื่อพริม และลูกสาวกับลูกชายสองคนชื่อเด็กชายข้าวและเด็กหญิงขวัญ ที่มีบ้านพักตากอากาศริมทะเลอยู่แถบปราจีนบุรี อีกครอบครัวหนึ่งครอบครัวของชัยโรจน์ที่อยู่กับภรรยาชื่อนภากันแค่สองคน

 

          ทั้งสองครอบครัวได้มารู้จักกันเพราะข้าวและขวัญแอบเข้าไปเล่นในบริเวณบ้านของชัยโรจน์ที่มีข่าวลือว่าเป็นบ้านผีสิง พ่อกับแม่ของทั้งสองเลยถือโอกาสมาททำความรู้จักกับคนในบ้าน เมื่อได้รู้จักกันแบบผิวเผินแล้วพริมที่เป็นคนสนิทกับนภามากที่สุดในตอนนั้นจึงทราบความว่าชัยโรจน์กับนภาเคยมีลูกด้วยกันหนึ่งคนชื่อเดียว แต่ถูกลักพาตัวไปและทุกวันนี้ยังไม่ทราบว่าไปอยู่ที่ใดมานานกว่า 17 ปี

 

          เรื่องราวเริ่มเข้มข้นมากขึ้นเมื่อครอบครัวของเลิศฤทธิ์ตัดสินใจช่วยตามหาลูกชายของทั้งคู่ ทุกหลักฐานที่ปรากฎออกมาคือความหวังของชัยโรจน์กับนภาที่ถูกจุดประกายด้วยผู้คนมาแล้วนับไม่ถ้วน แต่ก็ต้องลับหายไปเพราะเป็นเสียงแว่วๆ ของข่าวลือเท่านั้น แต่ปรากฏว่าการตามหาของเลิศฤทธิ์ดูมีเค้าลางที่น่าสนใจและน่าเชื่อถือมากกว่ารายก่อนๆ

 

          ตลอดเรื่องผู้เขียนแทรกแซงเหตุการณ์ที่สะท้อนสังคมออกมาได้ใกล้เคียงความจริงมากจนน่ากลัว (คุณงามพรรณเคยทำงานเป็นอาสาสมัครให้กับมูลนิธิกระจกเงา และกล่าวว่าได้นำส่วนหนึ่งของเหตุการณ์จริงมาใส่ในนิยายเรื่องนี้ด้วย) ทั้งการลักลอบพาตัวเด็กไปในสถานที่พลุกพล่านด้วยฝูงชน การเก็บเด็กไว้ในบ้านต่างๆ ทั่วประเทศ การส่งเด็กออกขายไปตามที่ต่าง ฯลฯ ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่เด็กชายเดียวต้องพบเจอในตอนนั้นนั่นเอง

 

          ระหว่างที่เลิศฤทธิ์ออกไปสืบข่าว พริมก็พาขวัญและข้าวคอยไปทำความรู้จักกับนภาและชัยโรจน์ เป็นครั้งแรกในรอบหลายสิบปีที่บ้านที่เต็มไปปด้วยความอ้างว้างหดหู่นี่เริ่มกลับมามีความสดใสเพราะเด็กตัวเล็กบ้างๆ ครอบครัวของชัยโรจน์เริ่มเรียนรู้ที่จะฟื้นฟูสภาพจิตใจของตนและมีชีวิตอยู่กับปัจจุบัน ทั้งความหวังที่จะได้เจอลูกชายตัวเองและความอบอุ่นที่ครอบครัวของเลิศฤทธิ์นำพามาให้ 

 

          เรื่องดำเนินมาถึงเบาะแสสุดท้ายของเดียวคือเรือไต้ก๋งกลางทะเล เลิศฤทธิ์ตัดสินใจลงไปในเรือลำนั้นด้วย เกิดเหตุปะทะกันกลางเรือ เลิศฤทธิ์โดนลูกหลง และในกลุ่มลูกเรือก็พบว่ามีคนไทยแท้ไม่ทราบชื่อนามสกุลอยู่สามรายที่โดนยิงจนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต

 

          จนต้อนท้ายแม้พบร่างที่คิดว่าน่าจะเป็นเดียวแล้ว แต่เลิศฤทธิ์และนภาก็ไม่ได้ทำการพิสูจน์อะไร เพราะเชื่อว่าต่อให้รู้ว่าเป็นลูกของตนจริงๆ แต่เค้าก็ไม่ใช่เดียวคนเดิมอีกต่อไปแล้ว ไม่ใช่เดียวที่เติบโตมาภายใต้การดูแลของพวกเขา แต่เป็นใครอีกคนหนึ่งที่เติบโตมาอีกรูปแบบ เติบโตมาโดยที่พวกเขาไม่ทราบเรื่องราวเหล่านั้นด้วย สุดท้ายถึงแม้ชัยโรจน์จะเก็บเส้นผมของลูกเรือที่มีความคล้ายคลึงกับเดียวมากที่สุดไว้แต่ก็ไม่นำไปพิสูจน์ หลังจากเหตุการณ์นั้นนภาก็เริ่มหันมาเรียนอะไรเล็กๆ น้อยๆ เพื่อประกอบอาชีพและให้มีอะไรทำ ชัยโรจน์ก้ตัดสินใจทำงานให้กับมูลนิธิตามหาเด็กหายและไม่ปิดตัวเงียบอยู่แต่ในบ้านอีกต่อไป

 

ประเด็นที่ได้จากหนังสือ

 

          ความทรมานจากความหวังที่ไม่รู้ว่าต้องหวังไปถึงเมื่อไหร่

 

          สิ่งที่ทำให้นภากับชัยโรจน์ต้องตกอยู่ภายใต้ความสิ้นหวังและหวาดกลัวนั้นคือการไม่รู้ว่าสภาพของลูกชายตนเองตอนนี้เป็นอย่างไร จะอยู่ดีหรือไม่ลำบากมากหรือเปล่า? มีชีวิตอยู่หรือตายไปแล้ว? ไม่มีใครให้คำตอบเหล่านี้กับทั้งสองได้ และในตอนแรกที่เดียวหายไป ก็มีความช่วยเหลือมากมายเข้ามา เป็นเหมือนไฟในความมืดที่คอยติดๆ ดับๆ อยู่เสมอ จากความดีใจที่มีความหวังสักเล็กน้อย กลายเป็นความทรมานเมื่อรู้ว่าความหวังที่ตนได้รับนั้นเป็นเพียงความหวังลมๆ แล้งๆ เท่านั้น  ในตอนแรกที่นากับเลิศฤทธิ์พบเบาะแส ทั้งคู่ระแวงมากว่าการค้นพบนี้จะเป็นการทำให้นภากับชัยโรจน์มีความหวังและต้องงผิดหวังขึ้นมาอีก จนต้องรอพบหลักฐานที่แน่ชัดกว่าที่เคยมีมาจริงๆ ถึงจะกล้าบอกว่าพวกตนพบเบาะแสเข้าแล้ว

 

          บาดแผลที่ไม่อาจเยียวยา

 

          การหายตัวไปของเดียวกลายเป็นบาดแผลสาหัสในใจของสองสามีภรรยา นภาป่วยหนักและหมดกำลังใจในการมีชีวิตอยู่ ชัยโรจน์เก็บตัวเงียบและกลายเป็นผู้ใหญ่ที่ดูเย็นชา ทั้งสองปฏิเสธการเข้าสังคมโดยสิ้นเชิง

 

          กระบวนการเยียวตนเองของทั้งคู่ไม่เกิดขึ้นเพราะว่าต่างฝ่ายต่างก็จมปลักอยู่กับอดีตที่ไม่ปล่อยวางได้ เพราะต่างก็คิดว่าเป็นความผิดของตนที่ไม่ได้ดูแลลูกให้ดีพอ ตัดสินใจลงโทษตัวเองด้วยการไม่พบปะใคร ยินยอมให้ตัวเองมีชีวิตที่อับเฉาและเดียวดายประหนึ่งรอความตายไปวันๆ ไม่กล้าออกไปเผชิญหน้ากับโลกเพราะหวาดกลัวว่าตนจะมีความสุขมากเกินไปจนลืมลูกชายของตน ไม่อนุญาตให้ตนเองมีชีวิตต่อไปได้เมื่อไม่รู้ว่าลูกเป็นตายร้ายดีอย่างไร

 

          จนกระทั่งการเข้ามาของครอบครัวของเลิศฤทธิ์ การได้เห็นขวัญกบข้าว โดยเฉพาะที่ข้าวที่มีวัยไล่เลี่ยกับเดียวตอนที่หายไปทำให้โรจน์หวาดกลัวเด็กคนนี้ ในตอนแรก แต่หลังจากที่ได้ทำความรู้จักกันมากขึ้นก็เริ่มใกล้ชิดสนิทสนม ทั้งครอบครัวของเด็กชายข้าวเองก็เป็นคนมีอัธยาศัยดี และรู้จักที่จะเข้าถึงผู้อื่น ประกอบกับระหว่างนั้นการค้นหาตัวตนของเดียวทำให้ทั้งนภาและเลิศฤทธิ์เริ่มตระหนักได้ว่าต่อให้พบเดียวขึ้นมาจริงๆ เด็กคนนั้นก็ไม่ใช่ลูกชายตัวน้อยๆ คนเดิมของเปิดใจยอมรับ เริ่มให้อภัยตัวเอง ให้โอกาสตัวเองได้ก้าวต่อไปข้างหน้าเพื่อจุดประสงค์อะไรบางอย่างบ้าง กระบวนการรักษาแผลในใจของคนทั้งคู่จึงค่อยๆ เริ่มเกิดขึ้นเพราะการมาถึงของอีกครอบครัวหนึ่งนั่นเอง.

bottom of page